สมุดบันทึกนักวิจัยหมายเลข 42 – การพบพานครั้งแรก
Ji Ting นักวิจัยหมายเลข 42
Last updated
Ji Ting นักวิจัยหมายเลข 42
Last updated
เธอเป็นคนแรกที่ได้พบเจอกับ Rover หลังจากได้เข้ามาสู่โลกแห่งความปั่นป่วน โดยหยางหยางจะร่วมเดินทางไปกับ Rover พาไปพบเจอเรื่องราวต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องกับเส้นเรื่องหลักความอ่อนโยนของเธอเป็นดั่งสิ่งที่คอยหล่อเลี้ยงและผลักดัน Rover ที่จะอยู่เคียงข้างกันไปอีกยาวนาน
แม้ในดินแดนที่เหลือเพียงเศษซากนี้ เธอยังทำตัว ”ไร้เดียงสา” ไม่สนปัญหาที่อยู่ข้างหน้าว่าจะยากลำบากเพียงใด เพราะเธอจะพยายามหาทางออกให้มัน แม้สิ่งนั้นจะเป็นไปไม่ได้ด้วยกำลังของคนเพียงคนเดียวก็ตาม ด้วยน้ำใจที่เธอมี และความต้องการที่จะปกป้องเศษเสี้ยวสิ่งดีๆที่ยังคงเหลือในดินแดนแห่งการทำลายล้าง เธอก็พร้อมจะทำทุกอย่าง แม้สิ่งนั้นจะทำร้ายตัวเธอไปด้วยก็ตาม “ความอ่อนโยน” นั้นเป็นดั่ง “ความอ่อนแอ” ที่เป็นจุดอ่อนแก่ทุกคนที่มี แต่ในทางกลับกัน ความอ่อนโยนก็สามารถเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ได้ ด้วยความเชื่อในแนวทางของตัวเอง เธอจึงฝึกฝนตัวเองให้แข็งเเกร่งด้วยความปรารถนาที่จะปกป้องทุกสิ่ง
แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะทำได้อย่างนั้น เส้นทางในอนาคตของเธออาจจะต้องเผชิญกับหายนะและการสูญเสียจากความเชื่อของตัวเอง
แม้สายลมและขนนกจะให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล แต่สิ่งเหล่านี้ก็มีพลังที่คาดไม่ถึง ที่จะแสดงออกมาตอนอยู่ในบางสถานการณ์
สิ่งเหล่านี้มีความใกล้เคียงกับความอ่อนโยนและความไร้เดียงสาของเธอมาก ในวันธรรมดามันอาจจะเป็นดั่งสายลมที่อ่อนโยน แต่เมื่อถึงเวลามันจะกลายเป็นพายุที่เฉือนสิ่งที่ขวางทาง
หากจะเปรียบตัวตนของเธอเป็นบทกวี มันคงเป็น “To the Skylark" ของ Shelley “เราไม่เคยหยุดที่จะไขว่คว้าหาความรัก แต่เราไม่เคยรู้ถึงความเจ็บปวดของการที่เรารักมากเกินไป”
นกสกายลาร์คไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ที่แข็งแกร่งดั่งนกอินทรีหรือนกฟีนิกซ์ แต่เป็นดั่งความงดงามในอุดมคติ หวังว่าเธอจะเป็นดั่งนกสกายลาร์คที่นำพาความงดงามมาชะโลมโลกที่ปั่นป่วนนี้
ความอ่อนโยนเป็นหนึ่งในลักษณะนิสัยที่พบได้โดยทั่วไป แต่ก็ยากจะอธิบายถึงความหมายที่แท้จริง โดยเฉพาะความอ่อนโยนที่ หยางหยาง มีนั้นไม่ใช่เป็น ‘จุดอ่อน’ อย่างที่ใครๆเข้าใจ
ภาพลักษณ์ของเธอนอกเหนือจาก สายลม, ขนนก และ นกสกายลาร์ค เธอยังมีลักษณะเฉพาะอีกหลายๆอย่างที่ทุกคนสามารถสังเกตได้เช่น ความรู้สึกของการพบกันครั้งแรก ที่หยางหยางเต็มไปด้วยความนุ่มนวลดั่งลูกพลัม ที่ไม่ว่าจะไปพบเจอผู้คนอีกมากมายเท่าไหร่แต่ก็ไม่มีวันที่จะลืมครั้งแรกที่ได้พบเธอ และนิสัยของเธอที่เป็นคนสงบเสงี่ยมอย่างเห็นได้ชัด เธอจะค่อยรับฟังผู้อื่นอย่างเงียบๆ ประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ และคอยนำพาผู้คนราวกับสายลม
เธอจึงเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนราวกับสายลมแต่แข็งแกร่ง ที่ค่อยอยู่เคียงข้าง Rover
[ซือเซียงจะจุดประกายให้คุณเอง!]
ในโลกที่เต็มไปด้วยหายนะ มีเพียงบรรยากาศน่าหดหู่ทุกแห่งหน แต่เธอยังมีความกระตือรือร้นที่จะสร้างความสดใส คอยหยอกล้อ Rover ทุกวี่วัน เธอจะตามเขาไปทุกที่ ที่เขาไปสร้างบรรยากาศแห่งความสดใสด้วยแรงใจที่มากล้นของเธอ
ผมสีแดงเข้มและเปียผมที่ยกขึ้นให้เห็นหน้าผาก สะท้อนบุคลิกที่กระตือรือร้นโดยไม่มีอะไรมาหยุดเธอได้ เสริมตัวตนด้วยเครื่องแต่งกายที่จับแพะมาชนกับแกะสุดแหวกแนวไม่เหมือนใครพร้อมชายกระโปรงที่ปลิ้วไสวระหว่างการต่อสู้ของเธอกับปืนคู่ใจ
เธอยังมีลักษณะพิเศษอื่นๆอีกไม่ว่าจะเป็นการชอบกินของเผ็ด และการพูดภาษาถิ่นบ้านเกิด ที่แสดงให้เห็นถึงตัวตนของเธอที่เป็นผู้อพยพ เสริมเรื่องราวมุมมองการมองโลกที่แตกต่างจากคนทั่วไป
ในบันทึกของการก่อตั้ง Huanglong มีผู้อพยพจำนวนมากจากภูมิภาคอื่นได้ทะทอยเข้ามาอยู่อาศัย หนึ่งในนั้นคือตระกูล ’หม่า’ ของหม่าเสี่ยวฟาง เธอซึ่งพยายามไล่ตามความฝันที่จะเป็น ฮีโร่ จึงได้ตั้งโค้ดเนมของตัวเองตามตัวเอกในนิทานที่เคยได้ฟังเป็นแรงจูงใจ เธอจึงเรียกตัวเองว่า “ซือเซียง” นี้น่าจะเป็นสิ่งที่มีเหตุผลที่สุดแล้วในการตั้งโค้ดเนมของเธอ อาจจะมีอีกหลายๆเหตุผลที่เธอไม่ได้บอก ซึ่งคงต้องรอให้ Rover ได้ไปค้นพบเอง
ภาพพ่อของเธอที่กำลังต่อสู้เพื่อปกป้องครอบครัวและประเทศที่เธอเคยได้เห็นตอนยังเป็นเด็ก เธอได้จดจำทุกท่วงท่า ทุกน้ำเสียงและคำพูด ยังคงถูกเก็บไว้เป็นแรงผลักดันในใจของเธอ
คำจำกัดความของ ‘ฮีโร่’ นั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละคน อาจจะเป็นคนที่แข็งแกร่งชนะการต่อสู้มามากมาย หรือเป็นคนที่ค่อยช่วยเหลือผู้คนอย่างเงียบๆโดยไม่ขอสิ่งใดตอบแทน แต่สำหรับเธอแล้ว ’ฮีโร่’ คือคนที่สามารถเผชิญหน้ากับความหวาดกลัว คนที่พร้อมจะยื่นมือออกไปปกป้องผู้อื่น ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใคร
ทุกเส้นทางที่เธอได้ก้าวเดินไปได้ทิ้งร่องรอยวีรกรรมความกล้าหาญของเธอไว้ ด้วยแรงใจอันมหาศาล ไม่ยากเลยที่จะเห็นเธอวิ่งไปทั่วเมืองในทุกๆวัน
ไป่เหลียงเป็นหนึ่งในคนที่ Rover จะได้พบในช่วงแรกๆซึ่งต่างจาก หยางหยางที่อ่อนโยน กับซือเซียงที่กระตือรือร้นแล้ว ไป่เหลียงดูจะเป็นคนที่เย็นชาและไม่สนใจสิ่งใดนอกเหนือจากตัวเธอเอง เธอเปรียบดั่งสาวงามบนหุบเขาน้ำแข็ง และด้วยความที่เป็นนักโบราณคดีเธอจึงมีหลักคิดในด้านวิทยาศาสตร์อีกด้วย
แม้จะดูเขร่งขรึมแต่เธอก็ยังมีลักษณะที่แปลกประหลาดเช่น การเคร่งขัดกับการทำทุกสิ่งอย่างชัดเจน จึงไม่เข้าใจคำว่า “ใส่เครื่องปรุงเล็กน้อย” ในสูตรอาหาร ว่ามันต้องใส่เท่าไหร่ ใส่กี่กรัม เพราะมันไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจน ซึ่งเธอไม่ชอบใจเอาซะเลย
"You'tan"(ความเศร้าโศก) เป็นสิ่งมีชีวิตไม่ทราบชนิดและที่มา มันคอยรับฟังและทำตามสิ่งที่ไป่เหลียงบอกและยังเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนของเธอ
ในอดีตเธอเคยเชื่อใจผู้คน แต่เมื่อเจอวิกฤตเธอกลับถูกทำลายความไว้ใจที่ได้มอบให้ ในตอนนั้นเอง You'tan ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นอีกตัวตนของเธอ จากนั้นมาเธอก็เชื่อใจเพียงแค่ You'tan และดูเหมือนว่า You'tan จะได้รับพลังจากความอ่อนโยนและความคาดหวังของไป่เหลียงอีกด้วย
ภาพลักษณ์ของไป่เหลียงเหมือนกับอารมณ์ที่เย็นชาของเธอ ด้วยเสื้อผ้าโทนสีขาวดำตัดด้วยความหรูหราเน้นการใช้งานจริง จากการที่เธอต้องไปแหล่งโบราณสถานที่อันตรายชุดจึงต้องมีความคล่องตัวรัดรูปแต่ก็ไม่เสียเอกลักษณ์ของ Huanglong